โอเค…เบตง 4

โอเค…เบตง 4

368
0
แบ่งปัน

***** “โอเค…เบตง 4” *****

การบิณฑบาตในเบตง ทุกคนมีความภาคภูมิใจ ที่ผืนแผ่นดินไทย เราเดินได้อย่างอิสระ

ข่าวต่างๆที่ได้รับได้ฟังมา จากสถานะการณ์ชายแดนสามจังหวัดภาคใต้

ทำให้ผู้คนทั้งหลาย ไม่กล้าลงไปเยือนสุดด้ามขวานของไทยเรา

พระอาจารย์นรา ได้ลงไปสอนกรรมฐานที่เบตงนี้กว่า 5 ปีแล้ว ท่านบอกงั้น

ได้สร้างหลวงพ่อทวดองค์ใหญ่ไว้ที่วัดบ่อน้ำร้อน นัยว่าเพื่อปกป้องคุ้มครอง ให้ใจผู้คนได้แข็งแรง

เราเดินบิณฑบาตกันด้วยความสงบ และดูน่าเลื่อมใส

ชาวบ้านทั้งหลายต่างกู่ร้อง ออกปากบอกๆต่อๆกันไป

มันเป็นภาพชาวไทยแห่งสันติสุข อยู่กันอย่างมีความสุข ไม่มีเหตุร้ายใดๆอย่างใครๆเขาหวั่นวิตก

สองข้างทางที่เราเดินบิณฑบาต ยังเป็นสวนและต้นไม้รกครื้ม

ผู้คนยามเช้า ทั้งพุทธ อิสลามต่างอยู่ร่วมกันอย่างสันติ

ภาพเช่นนี้ เป็นภาพแห่งผู้คนภายนอกไม่คิดว่าจะมี ไม่คิดว่า ที่นี่ เบตง มีแต่ความสงบและสุขร่มเย็น

ข่าวก่อการร้ายนี่ เป็นข่าวทำลายขวัญและการท่องเที่ยว

แต่ก่อนเราก็หวั่นใจ ว่าบ้านเมืองเขาจะอยู่กันอย่างไร เมื่อไม่มีใครกล้าลงไป

ข่าวสามชายแดนภาคใต้ มันเป็นข่าวร้ายแพร่ซึมไปสู่สายตาทั่วโลก

ข้าเองอยู่เบตง ยังไม่เจอฝรั่งเดินให้เห็นซักคน เห็นแต่คน มาเลเซีย ที่เข้ามากราบและร่วมกันทำบุญ

พวกเราดีใจ ที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของผู้คนในแผ่นดิน ที่ได้นำคณะลงมาที่เบตง

เพื่อให้ทุกคนได้รู้และเห็นว่า เราทุกคนในผืนแผ่นดิน เรายืนและเดินอยู่บนผืนแผ่นดินนี้ อย่างปลอดภัยไร้อันตราย ด้วยมิตรภาพและสันติภาพ

จะเป็นศาสนาไหนภาคใดๆ เราก็อยู่ร่วมกันได้ เราทุกคน เกิดบนผืนแผ่นดิน เป็นพี่น้องร่วมผืนแผ่นดิน

เรา..อย่าได้เอาศาสนาหรือเชื้อชาติทางความคิด มาเข่นฆ่าทำลายด้วยความรู้สึกแย่ๆกันอีกเลย

ขอให้สามชายแดนภาคใต้ อยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข ดั่งเช่นชาวเมืองเบตง

ที่ทุกคน ทุกเชื้อชาติ อยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข อิสระและสันติภาพ

ข้านำคณะลงไป พวกเรายืนยันได้ ว่าเมืองไทยภาคใต้ ยังเป็นดินแดนที่สวยงาม และมีความสงบสุขน่าอยู่น่าเที่ยว

ที่เบตง…นอกจากบ่อน้ำร้อนที่เราได้ลงไปแช่แล้วนี่ แช่ฟรีได้ทุกคนไม่คิดตังค์นะจ้า

ก็ยังมีที่ท่องเที่ยวอีกมากมาย ที่หลายคนอาจจะไม่เคยได้ยินและรู้จัก

แต่ต้องไปค้นหาเอาเองนะ มันมีมากมายและสวยงามน่าทึ่งมากสยามเมืองไทย ไม่ต้องไปเที่ยวไกล

เราได้ไปเยี่ยมอุโมงค์ที่ชาวจีนคอมมิวนิสต์ สมัยยุคเหมาเจอตุงโน้น ชื่ออุโมงค์ปิยะมิตร

ได้ยินได้ฟังเรื่องราวความยากลำบาก และการรุกไล่ถูกเข่นฆ่า เพราะความเป็นชาวจีน

จนต้องหนีตายมารวมตัวกันอยู่ในป่าชายแดนไทย

เดี๋ยวนี้กลายเป็นชาวบ้านแถวนั้นหมดแล้ว

ที่นั่นเขาขุดดินเป็นอุโมงค์ด้วยมือ อยู่กันเป็นมนุษย์รูกันเลยทีเดียว

นี่เหตุจากภัยร้าย ที่โดนรุกรานจากเพื่อมนุษย์ด้วยกัน ด้วยการขีดกันเชื้อชาติและศาสนา

ขอเมืองไทย อย่าได้เกิดเหตุการณ์ต้องเข่นฆ่า และหนีอย่างผู้ไร้แผ่นดินอยู่เช่นนี้อีกเลย

ที่นี่มีสวนดอกไม้เมืองหนาว มีน้ำตก มีทะเลหมอก มีน้ำพุร้อน มีประวัติศาสตร์ต่างๆของผู้คน มีอะไรๆมากมายให้ได้ค้นหา

เบตงเป็นเมืองอัญมณีมีค่าของสุดปลายชายแดนด้ามขวานเรา

เป็นเพียงแต่เรา ไม่เคยเข้าไปเห็นและรับทราบความจริงอีกด้าน

เรามองแต่ข่าวและสถานะการณ์ร้ายๆรวมๆกัน อันเกิดจากสามจังหวัดชายแดนภาคใต้เท่านั้น

พี่น้องที่นี่ มีหลากหลายเชื้อชาติ หลากหลายศาสนา คนจีนนี่มีอยู่มาก

ชาวอิสาน ชาวเหนือ ภาคกลางแทบทุกทิศทาง อาศัยมีอยู่ร่วมกันทั่วไป

ชาวมาเลเซีย สิงคโปร์ ฮ่องกง จีนมาท่องเที่ยวกันเยอะแยะ

เป็นแต่เราคนไทยส่วนใหญนี่แหละ ที่ยังกลัวๆกัน ไม่กล้าลงไปเหยียบผืนแผ่นดินที่เบตง

ผู้คนหน้าตายิ้มแย้มแจ่มใสใจดี ทักทายพูดคุยกันฉันน้องพี่ ที่เคยคุ้นเคย

ทั้งไทยพุทธ ไทยอิสลามและไทยไหนๆ ก็อยู่ร่วมกันอย่างสันติ

อีกราวสองปี สนามบินก็มีรองรับ บินตรงลงไปเลยไม่ต้องกลัว

วันนี้ว่าจะคุยถึงภูเขา ฆูรังสิรีบัต อันเป็นยอดเขาชมทะเลหมอกชนิด 360 องศากัน

อีกแห่งก็คือ ทะเลหมอกอัยเยอร์เวง แต่อยู่ตรงไหนก็ไม่รู้เหมือนกัน ฟังเขาว่ามาอีกที

ผลไม้ต่างๆที่นี่มีมากมาย เห็ดหลินจือ ไร่องุ่น ไร่ส้ม ทุเรียน เงาะ ลองกอง อะไรต่ออะไรเยอะแยะ

เราคนไทย ลองลงไปเที่ยวกันดูเหอะ ปลอดภัยไม่มีอะไรหรอก

ชาวเบตงเขาอยู่กันอย่างน่ารัก ทั้งคริส อิสลาม พุทธ อยู่ร่วมกันได้ไม่มีภัย

ไว้ว่างๆเราค่อยมาคุยกันใหม่ วันนี้ไม่ว่างแล้ว ขอสวัสดีทุกๆท่านให้มีแต่ความร่ำรวยกัน

พระธรรมเทศนา โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง วันที่ 15 มิถุนายน 2560